เรื่องราวของการละเมิดลิขสิทธิ์รวมถึงข่าวคราวการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ยังมีให้เห็นอยู่เสมอในบ้านเรา แม้ว่าจะมีการออกพระราชบัญญัติออกมาควบคุมแล้ว แต่ก็ยังไม่ค่อยได้รับความเอาใจใส่จากคนไทยเท่าที่ควร โดยเฉพาะฝ่ายผู้ใช้อย่างเราๆ ท่านๆ นี่แหละครับ ที่มักจะสับสน ไม่รู้ หรือกระทั่งไม่ใส่ใจ จนบางทีก็ก่อให้เกิดปัญหาร้ายแรงตามมา ทีนี้จะมาอ้างว่าทำไปเพราะไม่รู้ เจ้าหน้าที่เขาไม่รับฟังหรอกนะครบ
เรื่องของ พ.ร.บ. นั้นคงหาอ่านได้ทั่วไปนะครับ หวังว่าทุกท่านจะลองศึกษากันเพื่อสวัสดิภาพของท่านเอง แต่วันนี้ผมจะขออนุญาตเล่าแบบง่ายๆ เกี่ยวกับเรื่องใกล้ตัวที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้ เริ่มกันที่คำสองคำที่แสนจะคุ้นหู แต่บางทีก็สับสนว่ามันคืออะไรกันแน่ อย่างคำว่า license กับคำว่า copyright
license ส่วนใหญ่คำนี้เราจะใช้ทับศัพท์กัน แต่กรมทรัพย์สินทางปัญญาเขาได้กำหนดคำไทยเอาไว้ว่า สัญญาอนุญาต เจ้า license นี้ก็คือ การอนุญาต ใบอนุญาต หรือสิทธิ์ในการใช้งาน ยกตัวอย่างเช่นสมมติว่าเราไปซื้อซอฟต์แวร์ชนิดหนึ่งมาแบบถูกกฎหมายจากบริษัทหรือตัวแทนจำหน่ายที่ถูกต้อง หมายความว่าเราสามารถที่จะใช้ซอฟต์แวร์นั้นเต็มที่ตามสิทธิ์ที่เรามี (ซึ่งเขาก็จะระบุเอาไว้ในตัวซอฟต์แวร์นั่นแหละครับ แต่ส่วนใหญ่เราก็มักจะไม่อ่านกัน) license นี้ก็ยังเจาะจงได้อีกว่าอนุญาตให้ใช้งานเฉพาะบุคคลหรือไม่ ถ้าเราไปซื้อมาใช้คนเดียวก็เป็นสิทธิ์ของเราคนเดียวนะครับ แต่ถ้าเราซื้อในนามหน่วยงาน เราก็สามารถกำหนดได้ว่าจะขอสิทธิ์การใช้จำนวนเท่าไหร่ เช่น บริษัทเรามีพนักงานสิบคน เราซื้อซอฟต์แวร์จำนวนสิบ license ถ้าเกิดพนักงานคนไหนหัวใสเอาไปใช้เกินกว่าที่ตกลง เช่นแอบจิ๊กโหลดซอฟต์แวร์กลับไปใช้ส่วนตัว (จะด้วยวิธีการใดก็แล้วแต่) นั่นก็ถือว่าทำผิด เตรียมตัวรับโทษได้เลย
license บางประเภทจะกำหนดด้วยว่าอนุญาตให้ใช้งานกับคอมพิวเตอร์เฉพาะเครื่อง ถ้าเอาซอฟต์แวร์นั้นไปลงที่เครื่องอื่นนอกเหนือจากที่ตกลง ก็ผิดเหมือนกัน แต่ก็อีกเช่นกัน ถ้ามีข้อแม้นอื่นๆ ก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายเจ้าของลิขสิทธิ์กับผู้ซื้อจะตกลงกัน เช่น ให้ license แบบไม่จำกัดจำนวน เว้นเสียแต่ต้องใช้ภายในองค์กร หรือให้ใช้เฉพาะบุคลากรในองค์เท่านั้น เป็นต้น
ยังมีข้องสงสัยอีกอย่างเช่น ถ้าเกิดคอมพิวเตอร์เราพังขึ้นมา เราจะลงโปรแกรมเดิมในเครื่องใหม่ได้ไหม ตอบว่าได้ครับ ตราบใดที่โปรแกรมนี้ไม่ถูกลงพร้อมๆ กันสองเครื่อง หากจะแย้งว่าลงสองเครื่องก็จริงแต่เราใช้คนเดียว อันนี้ก็ไม่ได้นะครับ (กรณีที่ซื้อหนึ่ง license)
ทีนี้คำว่า copyright ล่ะ คำนี้จะหมายถึง สิทธิ์ในการเป็นเจ้าของซอฟต์แวร์นั้น หรือก็คือ ลิขสิทธิ์ … อย่าสับสนนะครับ license นั้นบอกว่าเราสามารถใช้งานซอฟต์แวร์นั้นแต่เราไม่ได้เป็นเจ้าของ เราจะใช้เท่าไหร่ก็ใช้ไปแต่เกิดจะใจดีก๊อปปี้ไปให้เพื่อนใช้แบบนี้ทำไม่ได้ เพราะเราไม่ได้เป็นเจ้าของ เราไม่ได้เป็นคนคิด ไม่ได้เป็นคนผลิตซอฟต์แวร์นี้ขึ้นมา เราแค่ไปซื้อเขามาใช้เท่านั้นครับ ยกตัวอย่างเช่นชุดโปรแกรม Microsoft Office ที่เราใช้กันอยู่นี้ ที่มีทั้ง word excel power point จะกระหน่ำใช้ทั้งวันทั้งคืนก็ตามใจ แต่ตัวโปรแกรมเป็นยังของบริษัทไมโครซอฟต์เขานะครับ สมมุติเพื่อนฝูงเกิด format เครื่องแล้วมาขอชุดออฟฟิศจากเราไปลง อันนี้ถ้าเราปล่อยให้เขาไปล่ะก็ ผิดเต็มๆ นะครับ ดังนั้นที่เราเห็นเขาวางขายกันแผ่นละร้อย อันนั้นยิ่งผิดเข้าไปใหญ่ คิดเองก็ไม่ได้คิด ยังจะไปเอาของคนอื่นมาก๊อปขายอีก อันนี้ผิดกี่เด้งก็ไม่รู้นะครับ
ทีนี้อีกเรื่องที่พบกันบ่อยคือเวลาที่เราเล่นอินเทอร์เน็ต แล้วค้นโน่นค้นนี่จนเจอของที่ต้องการ คำถามคือเราโหลดมาใช้ มาเป็นเจ้าของ มาเผยแพร่ได้ไหม ต้องขออนุญาตใครไหม ก็มันอยู่ในอินเทอร์เน็ตนี่นา ใครๆ ก็เปิดเจอ แบบนี้ต้องขอด้วยเหรอ … เดี๋ยวตอนหน้ามาไขข้อข้องใจกันครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น