การบริการออนไลน์ที่เชื่อมโยงกับห้องสมุด
ในประเด็นที่สอง
ว่าด้วยการบริการออนไลน์ที่เชื่อมโยงกับห้องสมุด ประเด็นนี้คงจะต้องขยายความว่า
จะมุ่งเห็นบริการโดยไม่ทราบว่าต้องทำอะไรบ้างก่อนหน้านั้นคงจะไม่ได้ บริการออนไลน์กว่าจะเกิดขึ้นได้
ต้องทำบุญล่วงหน้ากันหลายปี นั่นก็คือ การวางแผนให้มี digital contents กันในภาพรวมก่อนครับ
หน่้วยงานใดมาพูดเรื่องบริการออนไลน์แบบเอาความโก้เป็นหลัก หน่วยงานนั้นต้องบอกว่า
"กลวงโบ๋" เพราะจะจบด้วยการซื้อเครื่องมือ ซื้อโปรแกรม
และซื้อเนื้อหาที่เป็น digital content จนกระทั่งเอาตัวไม่รอดแน่นอน แท้ที่จริงแล้ว หากจะมีบริการออนไลน์ที่ดี
เราจะต้องวางแผนสร้าง digital contents ไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ และดำเนินการไปอย่างสม่ำเสมอจนเป็นวัฒนธรรม
ในประเทศไทย เราใช้คอมพิวเตอร์มาช่วยเรียงพิมพ์กันกว่า ๓๐ ปีแล้ว แต่การผลิตหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่ได้มาตรฐานก็เพิ่งจะเริ่มขึ้นเป็นส่วนน้อย
ยังคงมีภารกิจที่จะต้องจัดระเบียบให้หนังสือที่อยู่ในช่วงอายุไม่เกิน ๓๐
ปีได้มีโอกาสออกตัวเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์บ้าง
สำหรับหนังสือที่เก่าแก่เกิน
๕๐ ปี มีแนวโน้มว่าจะกลายเป็น eBook ได้ดี เพราะในบรรดาหนังสือเหล่านั้น
ลิขสิทธิ์ที่ตกเป็นของทายาทผู้เขียนที่เสียชีวิตไปแล้วก็ทะยอยหมดไป
การนำกลับมาถ่ายด้วยเครื่องสแกนภาพหรือกล้องดิจิทัลสามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว
ท่านที่สนใจเรื่องพวกนี้
สามารถเข้าไปชมที่โครงการ หนังสือเก่าชาวสยาม
ที่ริเริ่มโดยศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
ร่วมกับ สวทช. ว่าเราเข้าอ่านหนังสือเก่าๆ ของไทยได้อย่างไร
เมื่อเร็วๆ นี้เอง ทาง
สวทช. เอง (โดยศูนย์บริการความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และเนคเทค)
ก็ได้มีโอกาสทำงานสนองพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการสแกนหนังสือเก่าที่นักอนุรักษ์หนังสือชาวพม่าท่านหนึ่ง
(คุณ U Moe Myint) จะทูลเกล้าฯ ถวาย
เราจึงเกิดเป็นโครงการความร่วมมือนำระบบสแกนหนังสือจากประเทศไทยที่พัฒนาโดยบริษัท ATIZ สองเครื่อง
และระบบของเนคเทคหนึ่งเครื่อง ยกไปทำกันที่เมืองย่างกุ้ง อีกไม่นาน
ก็จะมีชุดหนังสือเก่าที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ วรรณคดี ศิลปะ
และมานุษยวิทยากว่าสี่ร้อยเล่ม เข้ามาอยู่ในประเทศไทย ซึ่งผมทราบมาว่า
ชุดหนังสือดิจิทัลนี้ สมเด็จพระเทพรัตน์ฯ
มีพระราชประสงค์จะพระราชทานให้กับคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว ตัวเล่มหนังสือจริงๆ ซึ่งมีค่ามากก็ยังอยู่กับเจ้าของต่อไป
แต่เราคนไทย จะเข้าถึงฉบับดิจิทัลได้ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ
ท่านทราบไหมครับ ว่า ATIZ เป็นบริษัทของคนไทย
บริษัทนี้มีนวัตกรรม สามารถออกแบบและสร้างเครื่องสแกนหนังสือออกมาดีที่สุดในโลก
และส่งออกไปยังต่างประเทศจำนวนมาก ซึ่งเป็นสัญญาณบอกว่ามีโครงการสแกนหนังสือเกิดขึ้นทั่วโลก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการ Google
Book และความร่วมมือระหว่าง Google กับหลายมหาวิทยาลัย
ที่ดูแลหนังสือกว่าแห่งละ ๒๐ ล้านเล่ม หากใครอยากทราบว่าที่ไหนสแกนหนังสือกันมาก
ก็คงต้องสอบถาม ดร.สารสิน บุพพานนท์ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทแห่งนี้
ทางบริษัทก็เข้ามาร่วมทำงานสนองพระราชดำริโดยการให้ทางพม่าได้ยืมใช้เครื่องสแกนหนังสือเพื่อทำงานในโครงการครับ
ขอให้ได้บุญมากๆ และขายเครื่องได้เยอะ ทางสวทช.ก็มีสายการผลิต eBook โดยใช้เครื่องของ
ATIZ หนึ่งเครื่อง
ที่มา......http://www.blognone.com/news/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น